ไฟเขียวเปิดประเทศให้รับต่างชาติ อนุมัติวีซ่าพิเศษ อยู่ได้ยาว 270 วัน

ครม.ไฟเขียวเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าได้เดือน ต.ค.ปีนี้ นำร่องเดือนละ 1,200 คน พร้อมอนุมัติวีซ่าประเภทใหม่ Special Tourist VISA หรือ STV อยู่ได้ 90 วัน ต่อได้อีก 2 ครั้งครั้งละ 90 วัน รวมสูงสุด 270 วัน หวังมีรายได้ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 12,000 ล้านบาทต่อปีไปกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นคืนชีพ นายกฯเตรียมนำเกณฑ์หารือต่อใน ศบค.ชี้ขอให้มั่นใจระบบสาธารณสุข ขณะที่ ศบศ.ประชุมวันที่ 16 ก.ย. เคาะมาตรการขายอสังหาฯให้นักท่องเที่ยวอีลิทการ์ด โล่งใจนักเตะไทยลีกชาวอุซเบฯ ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไม่พบเชื้อโควิด อินเดียยังคงรั้งอันดับ 1 ของตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งทะยานในวันเดียวกันเกือบ 9 หมื่นราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 8 หมื่นรายแล้ว ออสเตรเลียไร้ตายจากโควิด-19 วันแรก

ไทยเตรียมเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวกลุ่มมีกำลังซื้อสูง เข้ามาพำนักระยะยาวในไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุม ครม. ถึงการออกวีซ่านักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาว ว่า ในที่ประชุม ครม. มีการหารือเรื่องดังกล่าว แต่ต้องหารือในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.อีกครั้ง สิ่งสำคัญจะต้องมีการกักตัวตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะคนกลุ่มนี้จะอยู่ในประเทศไทยระยะยาว เนื่องจากมาในเรื่องการท่องเที่ยวและสุขภาพ สามารถอยู่ในสถานที่กักตัวทั้งในสถานที่ที่รัฐจัดให้ หรือสถานที่ที่เขาเลือก หรือในระบบโรงพยาบาล

“ขอให้ทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์สิ่งที่ควรจะเป็น ให้มีความไว้วางใจ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความร่วมมือ ตรวจสอบติดตาม คัดกรอง ที่สำคัญการ์ดอย่าตก หลายกิจกรรมที่เราผ่อนคลาย ตอนยังไม่ผ่อนคลายก็ขอร้องรัฐบาล พอคลายล็อกก็เริ่มคลายความเข้มงวดลงไป ถือว่าอันตราย ถ้าไม่สามารถทำตามมาตรการได้ก็อย่ามาโทษรัฐบาล” นายกฯกล่าว

ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติหลักการ แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ในเดือน ต.ค.ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยด้วยวีซ่านี้เดือนละ 1,200 คนและจะต้องเดินทางมาโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ มีการตรวจโรคตั้งแต่ต้นทางและตรวจซ้ำในประเทศไทย ต้องปฏิบัติตามแนวทางกักกันโรคของไทยอย่างเคร่งครัด กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เข้ามาคือประเทศที่มีการควบคุมโควิด-19 ได้ดี เช่น กลุ่มสแกนดิเนเวียและประเทศที่มาไทยในช่วงไฮซีซั่น ให้เดินทางไปได้ทั่วประเทศ หากกักตัวครบตามระยะเวลา 14 วัน

รองโฆษกประจำสำนักนายกกล่าวด้วยว่า คุณสมบัติของชาวต่างชาติที่จะให้วีซ่าเอสทีวี คือ 1.เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางมาพำนักระยะยาวในไทย 2.ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย ตกลงยินยอมกักตัวในห้องพัก 14 วัน 3.มีหลักฐานสถานที่พักอาศัยระยะยาวในไทย ได้แก่หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ในไทยและหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ต่อไปนี้ การชำระเงินค่าโรงแรมที่จะใช้เป็นที่พักหลังจากออกจากสถานที่กักตัว หรือโรงพยาบาลที่พัก หลักฐานสำเนาโฉนดห้องชุดคอนโดมิเนียม ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลในครอบครัวของบุคคลต่างด้าว หลักฐานการเช่าคอนโดมิเนียมหรือบ้านพัก การชำระเงินดาวน์ของบุคคลต่างด้าวในการซื้อหรือเช่าที่พักประเภทคอนโดมิเนียมที่บุคคลต่างด้าวซื้อได้ตามกฎหมาย

น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่า บุคคลต่างด้าวตามเกณฑ์ข้างต้น มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน หลังจากครบกำหนด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวมเป็น 270 วัน สำหรับแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษนี้ เพื่อต้องการนำนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเข้าไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ไทยสามารถบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค จนได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ทำให้คนต่างด้าวกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพจากทุกประเทศทั่วโลก มีความต้องการเดินทางเข้ามาพร้อมครอบครัวเพื่อมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 16 ก.ย. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) มีวาระพิจารณามาตรการกระตุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลังเสนอ ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอมาตรการส่งเสริมการขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ร่วมกับบัตรไทยแลนด์อีลิทเพื่อดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทย ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเสนอการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานระยะเวลาการให้สินเชื่อสินค้า (Credit term) ในประเทศไทย

ที่ศูนย์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ นพ.พิเชษฐ พืชขุนทด นพ.ภุชงค์ ไชยชิน 2 รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมแถลงความคืบหน้ากรณีนักฟุตบอลชาวอุซเบกิสถาน อายุ 29 ปี ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ของนักเตะรายนี้พบมีกลุ่มเสี่ยงสูง 74 คน เป็นนักฟุตบอล 42 คน ผู้เกี่ยวข้องในสนาม 5 คน นอกสถานที่ 27 คน หลังการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด 74 คนมีผลเป็นลบแต่ต้องกักตัว 14 วัน ผู้เสี่ยงต่ำรวม 339 คน ผลตรวจ 313 คน มีผลเป็นลบ อีก 26 คนอยู่ระหว่างรอผล นอกจากนี้พบว่านักเตะรายนี้เดินทางไปนอกสโมสร 4 จุด แต่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปควบคุมไว้อย่างเข้มข้น ทำให้ไม่มีแพร่กระจายของเชื้อ ขณะที่กรมควบคุมโรครายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย มาจากต่างประเทศคือ บาห์เรน ญี่ปุ่น ปากีสถาน ซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ ประเทศละ 1 ราย

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ร่วมรับฟังด้านวัคซีนร่วมกันทั้งวัคซีนเอดส์และโควิด-19 นายอนุทินกล่าวว่า ไทยไม่ได้ร่วมมือกับแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ร่วมมือกับทุกประเทศที่สามารถผลิตวัคซีนได้ รัฐบาลไทยให้การสนับสนุน อยากให้ความมั่นใจว่า หากมีวัคซีนโควิดเกิดขึ้นบนโลก ไทยต้องได้รับวัคซีนแน่นอน ส่วนเรื่องที่ทางชายแดนไทย-เมียวดี ของเมียนมา มีการประกาศเคอร์ฟิวปิดเมือง เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล ได้ประสานกระทรวงมหาดไทย ให้ร่วมตรวจสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าไทยตามพรมแดนธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมี อสม.ช่วยสอดส่องดูแลร่วมกันดูแลอย่างเข้มข้น

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้เร่งผลัดกันให้เกิดการยกร่างการกักตัวแรงงานต่างด้าวในสถานที่กักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร หรือ Organizational Quarantine ที่ใช้ได้จริง เพื่อเสนอต่อ ศบค. โดยภาครัฐอาจช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร้อยละ 50 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย สถานที่กักกันจะต้องอยู่ตามชายแดนจนแน่ใจว่าปลอดโรค เมื่อมายังไทยแล้วต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของสาธารณสุขไทย

พ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผกก.ตม.จ.ตาก เปิดเผยว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 ตม.จ.ตาก สนธิกำลังตำรวจ สภ.แม่สอด ทหาร ฉก.ร.4 เจ้าหน้าที่ รพ.แม่สอด ตรวจสอบแคมป์คนงานชุมชนบ้านสันต้นปิน เขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด พบแรงงานชาวเมียนมา 15 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 4 คน ไม่มีเอกสารการเข้าเมือง เจ้าหน้าที่นำตัวเข้าสู่การคัดกรองและส่งตัวดำเนินคดี วันเดียวกัน ร.อ.ศาศวัต สัตยพงษ์ ผบ.กองร้อยเครื่องยิงหนัก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ร่วมกับสาธารณสุข อ.แม่สอด จ.ตาก ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบสถานประกอบการและพื้นที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ อ.แม่สอด ประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้แรงงานชาวเมียนมาที่ยังทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยอย่างเคร่งครัด

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ ผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเป็น 29.4 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 933,000 คน อินเดียภาพรวมยังคงน่าวิตก พบผู้ติดเชื้อวันเดียว 83,809 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อขยับเป็น 4.93 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขอินเดียยังรายงานว่า รัฐมหาราษฏระ ทางภาคตะวันตกของประเทศ เป็นพื้นที่การระบาดที่รุนแรงที่สุด มีผู้ติดเชื้อรวมในรัฐกว่า 1 ล้านคน ทั้งการตรวจหาเชื้อก่อนการเปิดประชุมสภาสามัญเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ยังพบว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรติดเชื้อถึง 17 คน กระนั้นมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ของสหรัฐฯ เผยว่า อินเดียเป็นชาติที่มีอัตราคนฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 สูงที่สุดในโลก 77.8 เปอร์เซ็นต์

ด้านสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นจุดการแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด-19 อันดับ 1 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 6.74 ล้านคน เสียชีวิตรวม 199,000 คน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศลดคำเตือนด้านการเดินทาง สำหรับชาวอเมริกันที่ประสงค์จะเดินทางไปจีนและฮ่องกง โดยลดจากระดับ 4 ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด เหลือระดับ 3 ให้ทบทวนการเดินทาง เนื่องด้วยสถานการณ์ในประเทศดังกล่าวดีขึ้น

ในขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดในเมียนมายังคงน่าวิตกกังวล พบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 103 คน ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรวมในประเทศขยับเป็น 3,299 คน เทศบาลมณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้ประกาศล็อกดาวน์เมืองพรมแดนรุ่ยลี่ที่ติดกับเมียนมา หลังพบชาวเมียนมาเดินทางเข้าเมืองติดเชื้อ 2 คน เมื่อวันที่ 13 ก.ย. พร้อมประกาศให้ 8 อำเภอ และ 25 ตำบลที่ติดพรมแดน อยู่ในสภาวะสงคราม เพื่อยกระดับการตรวจตราคนเข้าเมือง และปราบปรามการเดินทางข้ามพรมแดนผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ส่วนศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน (CDC) ประเมินว่าวัคซีนที่อยู่ระหว่างการทดสอบขั้นสุดท้าย 4 ตัว อาจพร้อมใช้งานเร็วที่สุดเดือน พ.ย.

ที่เกาหลีใต้ นายชุง เซ-กยุน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งจองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จากบริษัทเวชภัณฑ์ต่างๆทั่วโลก ในปริมาณที่เพียงสำหรับประชากร 60% ของประเทศ แม้ว่ารัฐบาลตั้งเป้าที่จะจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับคนทั้งประเทศ 52 ล้านคน แต่ด้วยความไม่แน่นอนของประสิทธิภาพวัคซีน รวมทั้งความปลอดภัย จึงต้องตัดสินใจจำกัดปริมาณการสั่งจองไว้เท่านี้ ส่วนออสเตรเลีย กระทรวงสาธารณสุขแถลงเมื่อ 15 ก.ย.ในฐานะที่เป็นวันแรกในรอบ 2 เดือนที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในวันเดียวทั่วประเทศอยู่ที่ 50 คน

นายฮานส์ คลุก ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนว่าอย่าประมาท อย่าเพิ่งหวังว่าได้วัคซีนแล้วสถานการณ์จะจบลง พร้อมเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตในยุโรปช่วงเดือน ต.ค.และ พ.ย.จะพุ่งสูงขึ้น ด้านธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาประเทศเอเชียแปซิฟิก ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ ประเมินว่าเศรษฐกิจเอเชียในปี 2563 จะหดตัว 0.7% ถือว่าเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี แต่ภาพรวมปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 6.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ ประเมินว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้ทำให้โลกพัฒนาล่าช้าไป 20 ปี และเชื่อว่าโลกจะมีวัคซีนต้านไวรัสภายในต้นปี 2564

ที่มา ::  https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1930608