British Citizenship

รับปรึกษา จัดทำเอกสารเพื่อการสมัครเป็น British Citizenship การขอสัญชาติอังกฤษ การขอPassport การต่อPassport และการทำ CV สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 🙏🙏🙏 Line ID :: pla-prapasara

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564

บทสนทนาภาษาอังกฤษ Sickness (อาการเจ็บป่วย)

 

บทสนทนาภาษาอังกฤษ Sickness (อาการเจ็บป่วย)



อาการเจ็บปวดไม่มีใครต้องการให้มันเกิด แต่แน่นอนถ้ามันเกิดขึ้นเราสามารถที่จะสอบถามอาการเจ็บปวดของผู้ประสบได้ และการบอกอาการเจ็บปวยที่เกิดขึ้น การสนทนาอาการเจ็บป่วยภาษาอังกฤษก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันอยู่เช่นกัน เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามอาการไม่สบายอีกฝ่าย และการบอกอาการเจ็บป่วยเป็นภาษาอังกฤษ สามารถใช้ประโยคต่อไปนี้

เมื่อต้องการสอบถามอาการไม่สบายของอีกฝ่าย

What’s the matter?
วอทส เธอะ แมทเทอะ
เกิดอะไรขึ้น, เป็นอะไรหรือ
What’s the problem?
วอทส เธอะ พรอบเลิม
มีปัญหาอะไรหรือ
How are you feeling?
ฮาว อาร์ ยู ฟิลลิง
คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
Are you feeling alright?
อาร์ ยู ฟิลลิง ออลไรท
คุณไหวไหม
Are you feeling any better?
อาร์ ยู ฟีลลิง เอนนี เบทเทอะ
คุณรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม
I hope you feel better soon.
ไอ โฮพ ยู ฟีล เบทเทอะ ซูน
หวังว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นเร็วๆ นี้
Get well soon!
เกท เวล ซูน
หายไวๆ นะ

การบอกอาการเจ็บป่วย และบอกว่า ฉันเป็น หรือมีอาการ… พร้อมยกตัวอย่างอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

I’m not well.
ไอม นอท เวล
ฉันรู้สึกไม่ดีเลย
I feel very weak.
ไอ ฟีล เวรี วีค
ฉันรู้สึกอ่อนเพลียมาก
I’m not feeling very well.
ไอม นอท ฟีลลิง เวรี เวล
ฉันรู้สึกไม่ดีเอามากๆ เลย
I feel ill/sick.
ไอ ฟีล อิล/ซิค
ฉันรู้สึกไม่สบาย/ป่วย
I’m going to be sick.
ไอ โกอิง ทู บี ซิค
ฉันกำลังป่วย
I’ve been sick.
ไอฟว บีน ซิค
ฉันป่วย
I feel faint.
ไอ ฟีล เฟนท
ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
My head is giddy.
มาย เฮด อีส กิดดี
ฉันรู้สึกเวียนศีรษะ
My tongue is coated.
มาย ทัง อีส โคททิด
ลิ้นของผมเป็นฝ้าขาว
I’m asthmatic.
ไอม แอชแมททิค
ฉันเป็นโรคหอบหืด
I’m epileptic.
ไอม เอพพะเลพทิค
ฉันเป็นโรคลมบ้าหมู
I’m diabetic.
ไอม ไดอะเบททิค
ฉันเป็นโรคเบาหวาน

การใช้รูปประโยค เพื่อบอกว่า ฉันเป็น หรืออาการ… ” I have (got)…” ใช้กับอาการต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้

a headacheอะ เฮดเอคปวดหัว
a toothacheอะ ทูธเอคปวดฟัน
a sore throatอะ ซอร์โธรทเจ็บคอ
a coughอะ คอฟไอ
a coldอะ โคลดเป็นหวัด
a feverอะ ฟีเวอะมีไข้
a fluอะ ฟลูเป็นไข้หวัดใหญ่
a rashอะ แรชผื่นขึ้น
a lumpอะ ลัมพฉันมีก้อนนูน
diarrhoeaไดอะเรียท้องร่วง


I’m congested.
ไอม คันเจสทิด
ฉันมีเลือดคั่ง
I’ve cut myself.
ไอฟว คัท มายเซลฟ
ฉันถูกมีดบาด
I have broken my…
ไอ แฮฟว โบรเคิน มาย…
ฉันทำ…(ของฉัน)หัก
I cough constantly.
ไอ คอฟ คอนสเทินทลี
ฉันไออยู่ตลอดเวลาเลย
I feel thirsty.
ไอ ฟีล เธิร์สที
ฉันรู้สึกกระหายน้ำ
My nose is bleeding.
มาย โนส อีส บลีดดิง
ฉันมีเลือดกำเดาไหล
My…are hurting.
มาย…อาร์ เฮิร์ททิง
…ของฉันเจ็บ
My…hurts.
มาย…เฮิร์ทส
…ของฉันเจ็บ
My…are aching.
มาย…อาร์ เอคชิง
…ของฉันปวด
It hurts here.
อิท เฮิร์ทส เฮียร์
ปวดตรงนี้
The dog bit me (in the…).สุนัขกัดฉัน (ที่…)
I have loose bowels.
ไอ แฮฟว ลูส เบาเอิลส
ฉันท้องเสีย
I’ve been like this for several days.
ไอฟว บีน ไลค ธิส ฟอร์ เซฟเวอะเริล เดย์ส
ฉันเป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว
I’ve got a pain in my…
ไอฟว กอท อะ เพน อิน มาย…
ฉันปวดที่…ของฉัน
I’ve got a swollen…
ไอฟว กอท อะ สโวเลิน…
…ของฉันบวม
I’m in a lot of pain.
ไอม อิน อะ ลอท ออฟ เพน
ฉันเจ็บมาก


I have a pain all through the body.
ไอ แฮฟว อะ เพน ออล ธรู เธอะ บอดี
ฉันรู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวเลย
I have a terrible pain in my chest.
ไอ แฮฟว อะ เทอระเบิล เพน อิน มาย เชสท
ฉันรู้สึกเจ็บในอกมากเลย
I think I’ve pulled a muscle in my leg.
ไอ ธิงค ไอฟว พูลด อะ มัสเซิล อิน มาย เลก
ฉันคิดว่ากล้ามเนื้อขาของฉันถูกกระชาก/ดึง
I have a palpitation of the heart.
ไอ แฮฟว อะ แพลพิเทชัน ออฟ เธอะ ฮาร์ท
หัวใจของฉันเต้นถี่มาก
I’ve been having difficulty sleeping.
ไอฟว บีน แฮฟวิง ดิฟฟิคัลที สลีพพิง
ฉันนอนไม่หลับ/หลับยาก
I do not sleep well.
ไอ ดู นอท สลีพ เวล
ฉันนอนไม่ค่อยหลับ
I’m having difficulty breathing.
ไอม แฮฟวิง ดิฟฟิคัลที บรีธธิง
ฉันหายใจลำบาก
I’ve been feeling depressed.
ไอฟว บีน ฟีลลิง ดีเพรสด
ฉันรู้สึกหดหู่ใจ
I’ve got very little energy.
ไอฟว กอท เวรี ลิทเทิล เอนเนอะจี
ฉันไม่ค่อยมีแรง
I’ve been feeling very tired.
ไอฟว บีน ฟีลลิง เวรี ไทเออะด
ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก
I have no appetite for anything.
ไอ แฮฟว โน แอพพิไทท ฟอร์ เอนนีธิง
ฉันไม่รู้สึกอยากทานอะไรเลย
I feel like vomiting all the time.
ไอ ฟีล ไลค วอมมิททิง ออล เธอะ ไทม
ฉันรู้สึกอยากจะอาเจียนตลอดเวลาเลย


I need some more insulin.
ไอ นีด ซัม มอร์ อินซะลิน
ฉันต้องการยาอินซูลิน
I need another inhaler.
ไอ นีด อะนาเธอะ อินเฮเลอะ
ฉันต้องการเครื่องช่วยหายใจ
I need to see a doctor.
ไอ นีด ทู ซี อะ ดอคเทอะ
ฉันต้องการไปหาหมอ
Have you got any plasters?
แฮฟว ยู กอท เอนนี พลาสเทอะส
คุณมีพลาสเตอร์ยาบ้างไหม
Have you got any painkillers?
แฮฟว ยู กอท เอนนี เพนคิลเลิอะส
คุณมียาแก้ปวดไหม
Have you got any aspirin?
แฮฟว ยู กอท เอนนี แอสไพริน
คุณมียาแอสไพรินบ้างไหม

สมมุติว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ตัวอย่างประโยคต่อไปนี้ที่แพทย์มักใช้ถามกับคนไข้ที่มารับบริการ ตัวอย่างเช่น

How can I help you?
ฮาว แคน ไอ เฮลพ ยู
ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร
What are your symptoms?
วอท อาร์ ยัวร์ ซิมพเทิมส
อาการของคุณเป็นอย่างไร
How have you been feeling generally?
ฮาว แฮฟว ยู บีน ฟีลลิง เจนเนอะเริลลี
คุณรู้สึกแบบนี้เป็นประจำไหม
How long have you been feeling like this?
ฮาว ลอง แฮฟว ยู บีน ฟีลลิง ไลค ธิส
คุณรู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว
I’ve been like this for several days.
ไอฟว บีน ไลค ธิส ฟอร์ เซฟเวอะเริล เดย์ส
ฉันเป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว
Are you on any sort of medication?
อาร์ ยู ออน เอนนี ซอร์ท ออฟ เมดดิเคชัน
คุณกินยาอะไรอยู่บ้างไหม

หากได้รับยาที่ห้องจ่ายยา เภสัชกร อาจถามคนไข้ ด้วยประโยคที่ว่า…
Do you have any allergies?
ดู ยู แฮฟว เอนนี แอลเลอะจีส
คุณแพ้อะไรบ้างไหม
I’m allergic to antibiotics.
ไอม แอลเลอะจิค ทู แอนทีไบออททิคส
ฉันแพ้ยาปฏิชีวนะ
ประโยคต่อไปนี้เป็นประโยคสนทนาเกี่ยวกับการตรวจการรักษาอาการของคนไข้ อาจไม่ใช่ประโยคที่เป็นมาตรฐานที่ใช้สนทนากัน ซึ่งแล้วแต่แพทย์จะถามหรือสนทนากับคนไข้ และได้รวบรวมประโยคภาษาอังกฤษแบบทั่วไปที่มักพบบ่อยใช้สนทนากันมาพอเป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้

Can I have a look?
แคน ไอ แฮฟว อะ ลุค
ขอดูหน่อยได้ไหม
Where does it hurt?
แวร์ ดาส อิท เฮิร์ท
เจ็บตรงไหน
Does it hurt when I press here?
ดาส อิท เฮิร์ท เวน ไอ เพรส เฮียร์
กดตรงนี้เจ็บไหม
I’m going to take your blood pressure.
ไอม โกอิง ทู เทค ยัวร์ บลัด เพรชเชอะ
ฉันกำลังจะวัดความดันโลหิตคุณนะ
I’m going to take your temperature/pulse.
ไอม โกอิง ทู เทค ยัวร์ เทมเพอะระเชอะ/พัลซ
ฉันกำลังจะวัดอุณหภูมิร่างกาย/วัดชีพจร คุณนะ
Could you roll up your sleeve?
คูด ยู โรล อัพ ยัวร์ สลีฟว
ช่วยพับแขนเสื้อของคุณหน่อยได้ไหม
Your blood pressure is…
ยัวร์ บลัด เพรชเชอะ อีส…
ควมดันโลหิตของคุณ…
Quite low/Normal/Rather high/Very high
ไควท โล/นอร์เมิล/ราเธอะ ไฮ/เวรี ไฮ
ต่ำมาก/ปกติ/ค่อนข้างสูง/สูงมาก
Your temperature is…
ยัวร์ บลัด เพรชเชอะ อีส…
อุณหภูมิของคุณ…
Normal/A little high/Very high
นอร์เมิล/อะ ลิทเทิล ไฮ/เวรี ไฮ
ปกติ/สูงเล็กน้อย/สูงมาก
Open your mouth, please.
โอเพิน ยัวร์ เมาท พลีซ
กรุณาอ้าปาก
Cough, please.
คอฟ พลีซ
กรุณาไอ/กระแอม


Do you have any difficulty in swallowing?
ดู ยู แฮฟว เอนนี ดิฟฟิคัลที อิน สวอลโลวิง
คุณรู้สึกเจ็บคอหรือเปล่าเวลากลืนน้ำลาย
You need to have a blood test.
ยู นีด ทู แฮฟว อะ บลัด เทสท
คุณจำเป็นต้องตรวจเลือดนะ
I want to send you for an X-ray.
ไอ วอนท ทู เซนด ยู ฟอร์ แอน เอคซเรย์
ผมอยากส่งคุณไปเข้ารับการเอ็กซเรย์
I want you to see a specialist.
ไอ วอนท ยู ทู ซี อะ สเพชชะลิสท
ฉันอยากให้คุณไปพบผู้เชี่ยวชาญ
You need to be hospitalized.
ยู นีด ทู บี ฮอสพิเทิลไลซด
คุณต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

การให้คำแนะนำต่างๆ สามารถใช้ประโยคคำว่า You should… หรือ You need to… แปลว่า คุณควรจะ… เช่น
ํYou should stop smoking.
ยู ชูด สทอพ สโมคคิง
คุณควรจะหยุดสูบบุหรี่นะ
You need to exercise at least twice a week.
ยู นีด ทู เอคเซอะไซซ แอท ลีสท ทไวซ อะ วีค
คุณควรออกกำลังกายอย่างน้อยสองครั้งต่อสัปดาห์นะ
ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษ (Conversation)

John :Hi, Gade. What’s the matter? You look not well.
ไฮ เกด วอทส เธอะ แมทเทอะ ยู ลุค นอท เวล
สวัสดีเกด เกิดอะไรขึ้น คุณดูอาการไม่ค่อยดีเลยนะ
Gade :Hi John I’m not feeling well. I think I have a cold.
ไฮ จอห์น ไอม นอท ฟีลลิง เวล ไอ ธิงค ไอ แฮฟว อะ โคลด
สวัสดีจอห์น ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ฉันคิดว่าฉันคงจะเป็นหวัดน่ะ
John :That sounds terrible. Did you see any doctors?
แธท เซานดส เทอระเบิล ดิด ยู ซี เอนนี ดอคเทอะส
ฟังดูแย่จัง คุณไปหาหมอบ้างหรือยัง
Gade :Yes, he gave me some pills. It wouldn’t be like this if only I took an umbrella to the class.
เยส ฮี แกฟว มี ซัม พิลส อิท วูดดึนท บี ไลค ธิส อิฟ โอนลี ไอ ทุค แอน อัมเบรลละ ทู เธอะ คลาส
หาแล้ว หมอก็ให้ยามากินน่ะ มันคงไม่เป็นอย่างนี้หรอก ถ้าแค่ฉันพกร่มไปด้วย
John :I think so. Well, I hope you feel better soon.
ไอ ธิงค โซ เวล ไอ โฮพ ยู ฟีล เบทเทอะ ซูน
ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละ หวังว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นเร็วๆ นี้นะ
Gade :I hope so. Thank you so much.
ไอ โฮพ โซ แธงคิว โซ มัช
ฉันก็หวังให้เป็นเช่นนั้น ขอบคุณมากนะ


ที่มา  ::    https://engenjoy.blogspot.com/

5 ประโยคควรรู้ก่อนสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ


5 ประโยคควรรู้ก่อนสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ


หลายคนบอกการสัมภาษณ์งานด้วยภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่ยากสำหรับบางคนที่อาจเจอทดสอบภาษาอังกฤษด้วยการสอบสัมภาษณ์ และประโยคคำถามยอดฮิตมักเจอบ่อยเราได้สรุปมาให้ดังต่อไปนี้

ประโยคที่ควรรู้ก่อนสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ

บอกจุดแข็งของตัวคุณเอง : I am…

1. บอกจุดแข็งของตัวคุณเอง : I am…

การสัมภาษณ์งานคำถามมักเจอบ่อยคือให้บอกข้อดีหรือจุดแข็งของตัวเอง เมื่อเราต้องการบอกจุดแข็งของเราคืออะไร คำตอบของแต่ละคนก็คงแตกต่างกันออกไป แต่เราสามารถใช้โครงสร้างประโยคพื้นฐาน ง่ายๆ ดังนี้

I am + คุณลักษณะ + and + คุณลักษณะ

ตัวอย่าง : I am diligent and independent.
              ไอ แอม ดิลิเจินท แอน อินดิเพนเดนท

              ผมเป็นคนขยันและทำงานคนเดียวได้ครับ


บอกจุดอ่อนของตัวเราเอง : I might be a little bit…

2. บอกจุดอ่อนของตัวเราเอง : I might be a little bit…

แน่นอนว่าเมื่อมีคำถามบอกจุดแข็งก็ต้องมีจุดอ่อนหรือข้อเสียของเราคืออะไร เคล็ดลับง่ายๆ ในการตอบคำถามคือให้พูดถึงสิ่งที่มีมากเกินไปจนทำให้เป็นจุดอ่อนของเรา สามารถใช้โครงสร้างประโยค

I might be a little bit + คุณสมบัติ

ตัวอย่าง : I might be a little bit serious.
              ไอ ไมท บี อะ ลิทเทิล บิท เซียเรียส

              ผมอาจเป็นคนจริงจังเกินไปหน่อยครับ


บอกทักษะในด้าน.... : I have strong…. Skills.

3. บอกทักษะในด้าน.... : I have strong…. Skills.

นอกจากบอกคุณลักษณะจุดแข็งของเราแล้ว แต่ถ้าหากเรามีทักษะพิเศษความสามารถเฉพาะตัวในทางด้านต่างๆ ที่อยากบอกคณะกรรมการสัมภาษณ์งาน ให้พูดด้วยประโยค ดังนี้

I have strong + ทักษะ + Skills.

ตัวอย่าง : I have strong interpersonal Skills.
              ไอ แฮฟว สตรอง อินเทอเพอซะเนิล สกิลซ

              ผมมีทักษะในด้านการประสานงานครับ



4. มีความรู้ในเรื่องที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานนั้น : I have knowledge in…

อีกประโยคที่จะลืมบอกไม่ได้คือคุณมีความรู้ทักษะที่จำเป็นต่องานที่มาสมัครหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เรื่องใดบ้าง ที่เป็นประโยชน์ในงาน เพื่อให้เขาพิจารณาเป็นพิเศษ

I have knowledge in + ความรู้เรื่อง.

ตัวอย่าง : I have knowledge in Microsoft Excel.
              ไอ แฮฟว นอลลิจ อิน ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล

              ดิฉันมีความรู้เรื่องโปรแกรม Microsoft Excel. ค่ะ


ทำไมถึงหางานใหม่? : Why are you looking for a new job?

5. ทำไมถึงหางานใหม่? : Why are you looking for a new job?

แต่ผู้สัมภาษณ์ถามด้วยประโยคตัวอย่างนี้ ว่าทำไมถึงอยากเปลี่ยนงานใหม่ ถ้าอยากตอบให้ดูดี ก็สามารถตอบด้วยประโยคนี้ได้เช่น

ตัวอย่าง : Why are you looking for a new job?
              ไว อาร ยู ลุคคิง ฟอร อะ นิว จ๊อบ

              ทำไมถึงหางานใหม่

              I’m looking for a better opportunity.
              ไอม ลุคคิง ฟอร อะ เบทเทอร ออพเพอรทูนะที

              ดิฉันมองหาโอกาสที่ดีกว่าค่ะ



ที่มา   https://engjobinterview.blogspot.com/




 

บทสนทนาภาษาอังกฤษ Job Interview (การสัมภาษณ์งาน)

 

บทสนทนาภาษาอังกฤษ Job Interview (การสัมภาษณ์งาน)




หลังจากสมัครงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ขั้นตอนต่อไปคือ การสัมภาษณ์งาน ในพาร์ทนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับคำถามซึ่งมักอาจจะเกิดในการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษก็ได้ ซึ่งบ่อยครั้งที่มีการสัมภาษณ์ด้วยภาษาอังกฤษ เพื่อทดสอบการสื่อสารความเข้าใจว่าผู้สมัครมีความสามารถเพียงพอด้านภาษาอังกฤษหรือเปล่า


ตัวอย่างต่อไปจะเป็นประโยคและบทสนทนาภาษาอังกฤษการสัมภาษณ์งาน ที่มักพบบ่อยดังต่อไปนี้

We’d like to invite you for an interview.
วีด ไลค ทู อินไวท ยู ฟอร์ แอน อินเทอะวิว
เราต้องการเชิญคุณมาสัมภาษณ์งานค่ะ

We’d like to offer you the job.
วีด ไลค ทู ออฟเฟอะ ยู เธอะ จอบ
เราอยากจะเสนองานให้คุณ

What kind of job can you offer, sir?
วอท ไคนด ออฟ จอบ แคน ยู ออฟเฟอะ เซอะ
คุณจะให้ผมทำงานประเภทไหนครับ

This is the job description.
ธิส อีส เธอะ จอบ ดิสคริพชัน
นี่เป็นรายละเอียดลักษณะงานครับ

What do you plan to do after graduation?
วอท ดู ยู แพลน ทู ดู อาฟเทอะ แกรจจุเอชัน
คุณวางแผนทำอะไรหลังจากเรียนจบ

What do you expect to do after you graduate?
วอท ดู ยู อิคสเพคท ทู ดู อาฟเทอะ ยู แกรจจุเอท
คุณคาดว่าจะทำอะไรหลังจากเรียนจบ

We need someone with experience.
วี นีด ซัมวัน วิธ อิคสพีเรียนซ
เราต้องการคนที่มีประสบการณ์

Have you got any experience?
แฮฟว ยู กอท เอนนี อิคสพีเรียนซ
คุณมีประสบการณ์บ้างไหม

What are you doing now?
วอท อาร์ ยู ดูอิง นาว
คุณทำอะไรอยู่ในตอนนี้

Where do you work now?
แวร์ ดู ยู เวิร์ค นาว
ตอนนี้คุณทำงานอยู่ที่ไหน

Where are you working now?
แวร์ อาร์ ยู เวิร์คคิง นาว
ตอนนี้คุณทำงานอยู่ที่ไหน

I’m going to work at…
ไอม โกอิง ทู เวิร์ค แอท…
ผมกำลังจะได้งานที่…

I’m employed at...
ไอม เอมพลอยด แอท…
ฉันทำงานที่…

I work at…
ไอ เวิร์ค แอท…
ฉันทำงานที่…
I’m a…at…
ไอม อะ…แอท…
ฉันเป็น…อยู่ที่…
I’m looking for a job.
ไอม ลุคคิง ฟอร์ อะ จอบ
ผมกำลังมองหารงานอยู่ครับ
I’m still out of work.
ไอม สทิล เอาท ออฟ เวิร์ค
ผมยังไม่มีงานทำเลยครับ
I’m unemployed right now.
ไอม อันเอมพลอยด ไรท นาว
ตอนนี้ผมว่างงานอยู่ครับ
Why were you fired?
วาย เวอร์ ยู ไฟเออะด
ทำไมคุณถึงถูกไล่ออกล่ะ

Why did you resign from your previous job?
วาย ดิด ยู รีไซน ฟอร์ม ยัวร์ พรีเวียส จอบ
ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่าล่ะ

Why did you design to change your job?
วาย ดิด ยู ดิไซน ทู เชนจ ยัวร์ จอบ
ทำไมคุณถึงอยากเปลี่ยนงานละ


Are you still working at…?
อาร์ ยู สทิล เวิร์คคิง แอท…
คุณยังทำงานอยู่ที่…หรือเปล่า
What is your weak point?
วอท อีส ยัวร์ วีค พอยท
จุดอ่อน/ ข้อเสียของคุณคืออะไร
What is your strong point?
วอท อีส ยัวร์ สทรอง พอยท
จุดแข็ง/ ข้อดีของคุณคืออะไร
Have you got any qualifications?
แฮฟว ยู กอท เอนนี ควอลละฟะเคเชินส
คุณมี คุณวุฒิ/ คุณสมบัติ อะไรบ้าง
What qualifications have you got?
วอท ควอลละฟะเคเชินส แฮฟว ยู กอท
คุณมี คุณวุฒิ/ คุณสมบัติ อะไรบ้าง
Could you tell us about yourself.
คูด ยู เทล อัส อะเบาท ยัวร์เซลฟ
ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวคุณให้เราฟังหน่อย
What is your career objective?
วอท อีส ยัวร์ คะเรียร์ อับเจคทิฟว
อะไรคือเป้าหมายในการทำงานของคุณ

How do you see yourself in next twenty years?
ฮาว ดู ยู ซี ยัวร์เซลฟ อิน เนคซท ทะเว็นทิ เยียร์ส
คุณมองเห็นตัวเองอย่างไรในอีก 20 ปีข้างหน้า

How do you improve your personal experience?
ฮาว ดู ยู อิมพรูฟว ยัวร์ เพอะซะเนิล อิคสพีเรียนซ
คุณหาประสบการณ์เพิ่มเติมให้กับตัวเองอย่างไร

We’ll need to take up the references.
วีล นีด ทู เทค อัพ เธอะ เรฟเฟอะเรินซ
เราต้องการบุคคลอ้างอิง

Who can tell us your previous job achievements?
ฮู แคน เทล อัส ยัวร์ พรีเวียส จอบ อะชีฟวเมินทส
ใครบอกเราเกี่ยวกับความสำเร็จในการทำงานของคุณได้บ้าง

Have you got a current driving licence?
แฮฟว ยู กอท อะ เคอะเรินท ไดรฟวิง ไลเซินซ
คุณมีใบขับขี่หรือเปล่า

How much were you paid in your last job?
ฮาว มัช เวอร์ ยู เพด อิิน ยัวร์ ลาสท จอบ
ค่าจ้างครั้งสุดท้ายของคุณเท่าไหร่

Would you accept if we offer you a lower salary than your expected salary?
วูด ยู แอคเซพท อิฟ วี ออฟเฟอะ ยู อะ โลเออะ แซลละรี แธน ยัวร์ อิคสเพคทิด แซลละรี


คุณจะทำงานนี้ไหมถ้าเราเสนอเงินเดือนให้ต่ำกว่าที่คุณต้องการ

Is there any questions?
อีส แธร์ เอนนี เควสเชินส
มีอะไรจะถามไหมครับ
What are the hours of work?
วอท อาร์ ธิ เอาเออะส ออฟ เวิร์ค
เวลาทำงานกี่ชั่วโมงครับ
Will I have to work for shifts?
วิล ไอ แฮฟว ทู เวิร์ค ฟอร์ ชิฟทส
ต้องทำงานเป็นกะไหมครับ

Will I have to work on Saturdays?
วิล ไอ แฮฟว ทู เวิร์ค ออน แซทเทอะเดย์ส
ผมต้องทำงานในวันเสาร์ไหมครับ

How many weeks’ holiday a year are there?
ฮาว เมนี วีคส ฮอลลิเดย์ อะ เยียร์ อาร์แธร์
มีวันหยุดสุดสัปดาห์กี่วันต่อปี

How much does the job pay?
ฮาว มัช ดาส เธอะ จอบ เพย์
ค่าจ้างเท่าไหร่ครับ
What’s the salary?
วอทส เธอะ แซลละรี
เงินเดือนเท่าไหร่ครับ
…baht per hour/ month.
…บาท เพอร์ เอาเออะ/ มันธ
…บาทต่อชั่วโมง/ เดือน
How long of the trial period?
ฮาว ลอง ออฟ เธอะ ไทรเอิล พีเรียด
ช่วงทดลองงานนานแค่ไหนครับ
There’s a three months trial period.
แธร์ส อะ ธรี มันธส ไทรเอิล พีเรียด
ระยะเวลาทดลองงาน 3 เดือนครับ
Is there any welfare?
อีส แธร์ เอนนี แวลแฟร์
มีสวัสดิการอะไรบ้างครับ
Is there…?
อีส แธร์…
มี…ให้ไหม
Will I get…?
วิล ไอ เกท…
ผมจะได้…ไหม
a company car
อะ คัมพะนี คาร์
รถบริษัท
travelling expenses
แทรฟเวิลลิง อิคสเพนซซิส
ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง
paid for overtime
เพด ฟอร์ โอเวอะไทม
ค่าล่วงเวลา
a staff restaurant
อะ สทาฟ เรสเทอะเรินท
ร้านอาหารของพนักงาน
a pension scheme
อะ เพนชัน สคีม
โครงการเงินสงเคราะห์
free medical insurance
ฟรี เมดดิเคิล อินชัวเรินซ
ประกันสุขภาพฟรี


Will you come to work with us?
วิล ยู คัม ทู เวิร์ค วิธ อัส
คุณอยากจะมาร่วมงานกับเราไหม
Yes’ I’ll take this job. When do you want me to start?
เยส ไอล เทค ธิส จอบ เวน ดู ยู วอนท มี ทู สทาร์ท
ครับ ผมจะทำงานนี้ คุณต้องการให้ผมเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ
When can you start?
เวน แคน ยู สทาร์ท
คุณจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่
As soon as possible.
แอส ซูน แอส พอสซะเบิล
เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
Any time you want.
เอนนี ไทม ยู วอนท
ตามที่คุณต้องการครับ
How much notice do you have to give?
ฮาว มัช โนทิส ดู ยู แฮฟว ทู กิฟว
คุณต้องการให้แจ้งล่วงหน้านานแค่ไหนครับ
Do you need a work permit?
ดู ยู นีด อะ เวิร์ค เพอร์มิท
คุณต้องการใบอนุญาตการทำงานไหม

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษ (Conversation)

John :Good morning, Miss Malee.
กูด มอร์นิง มิส มาลี
สวัสดีครับ คุณมาลี
Malee :Good morning, sir.
กูด มอร์นิง เซอะ
สวัสดีค่ะ
John :Have a seat, please.
แฮฟว อะ ซีท พลีซ
เชิญนั่งครับ
Malee :Thank you, sir.
แธงคิว เซอะ
ขอบคุณค่ะ
John :You have applied to be our English teacher. What did you graduate in?
ยู แฮฟว อะไพลด ทู บี เอาเออะ อิงลิช ทีชเชอะ วอท ดิด ยู แกรจจุเอท อิน
คุณสมัครเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษของเรา คุณจบอะไรมาครับ
Malee :I graduated with a bachelor’s degree in Education.
ไอ แกรจจุเอทิด วิธ อะ แบชชะเลอะส ดีกรี อิน เอดจุเคชัน
ดิฉันจบปริญญาตรีศึกษาศาสตร์ค่ะ
Malee :My major was English Teaching.
มาย เมเจอะ วอส อิงลิช ทีชชิง
วิชาเอกของฉันคือการสอนภาษาอังกฤษค่ะ
John :You graduated with honor. Did you do any activities while studying at the university?
ยู แกรจจุเอทิด วิธ ออนเนอะ ดิด ยู ดู เอนนี แอคทีฟวิทีส ไวล สทัดดีอิง แอท เธอะ ยูนิเวอะซิที
คุณจบด้วยเกียรตินิยม แล้วอย่างนี้คุณได้ทำกิจกรรมในช่วงที่เรียนที่มหาลัยบ้างหรือเปล่าครับ
Malee :Yes, I was a volunteer for rural development camping.
เยส ไอ วอส อะ วอลเลินเทียร์ ฟอร์ รูเริล ดิเวลเลิพเมินท แคมพิง
ทำค่ะ ดิฉันเป็นอาสาสมัครค่ายอาสาพัฒนาชนบทค่ะ
John :Umm…That sounds interesting. Thank you for today. I will contact you later.
อืม แธท เซานดส อินเทอะเรสทิง แธงคิว ฟอร์ ทูเดย์ ไอ วิล คอนแทคท ยู เลเทอะ
ฟังดูน่าสนใจดีครับ ขอบคุณสำหรับวันนี้ แล้วผมจะติดต่อไปครับ
Malee :Thank you, and I hope to hear from you soon.
แธงคิว แอนด ไอ โฮพ ทู เฮียร์ ฟรอม ยู ซูน
ขอบคุณค่ะ และหวังว่าฉันจะได้ข่าวจากคุณในเร็วๆ นี้นะคะ



ที่มา ::    https://engenjoy.blogspot.com/

การทำ SEO คืออะไร

  การทำ SEO คืออะไร การทำ SEO คืออะไร เรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียตังค์ "SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นห...