ย้ายประเทศ : ขอสัญชาติโดยไม่พึ่งการสมรสกับคนชาตินั้น ทำอย่างไร
บีบีซีไทยรวบรวมเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ที่จำเป็นในการที่คนไทยคนหนึ่งต้องมี ในการขอสัญชาติของหลายประเทศ โดยเจาะจงคนที่ต้องการไปทำงานและใช้ชีวิตที่นั่น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการแต่งงานกับคนชาตินั้น หรือขอสัญชาติด้วยเงื่อนไขด้านการลงทุน
สหราชอาณาจักร กว่าที่หนอนตัวหนึ่งจะกลายเป็นผีเสื้อออกมาโบยบินได้อย่างเสรีนั้น ต้องผ่านระยะการเป็นดักแด้มาก่อน ไม่ต่างจากคนที่ได้วีซ่าเข้ามาทำงานในต่างประเทศ กว่าที่จะสามารถขอสัญชาติประเทศนั้นได้ ก็ต้องผ่านขั้นตอนสำคัญก่อนหน้านั้นเช่นกัน
ในสหราชอาณาจักรขั้นตอนสำคัญนั้นคือ การได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักรได้ โดยไม่จำกัดระยะเวลา หรือที่คนทั่วไปอาจจะเรียกว่า วีซ่าถาวร แต่ในสหราชอาณาจักรเรียกการอนุญาตเช่นนี้ว่า indefinite leave to remain (ILR) โดยหลังจากได้รับ ILR นาน 12 เดือน จึงจะสมัครขอสัญชาติอังกฤษได้
แต่การจะได้ ILR นั้น บุคคลนั้นต้องอาศัยและทำงานอยู่ในสหราชอาณาจักรมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่าทำงานที่ได้รับ ผู้ที่ได้วีซ่าทำงานประเภทแรงงานทักษะทั่วไป ต้องทำงานและอยู่อาศัยนาน 5 ปี จึงจะสมัครขอ ILR ได้ แต่สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าทำงานประเภทผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือ ความสามารถพิเศษ ทำงานเพียง 2-3 ปี ก็สามารถสมัครขอ ILR ได้แล้ว
คำบรรยายภาพ, ผู้ที่ต้องการสมัครของสัญชาติอังกฤษ ต้องได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยอยู่อย่างถาวรในประเทศ (indefinite leave to remain--ILR) นาน 12 เดือน
ในการสมัครขอ ILR มีการกำหนดเงื่อนไขไว้หลายอย่าง ในกรณีนี้จะยกมาเฉพาะวีซ่าแรงงานที่ต้องใช้ทักษะ ดังนี้
ต้องใช้ชีวิตและทำงานในสหราชอาณาจักรมาแล้ว 5 ปี โดยในแต่ละช่วง 12 เดือนระหว่าง 5 ปีนั้น ไม่มีช่วงใดที่ออกนอกสหราชอาณาจักรนานเกิน 180 วัน เงินเดือนขั้นต่ำผ่านเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีการกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยเป็นรายอาชีพ โดยส่วนใหญ่ปัจจุบันจะอยู่ที่ 25,600 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 1,140,000 บาท) หรือ 10.10 ปอนด์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 450 บาท) งานที่คุณทำยังเป็นที่ต้องการอยู่ โดยจะต้องมีเอกสารยืนยันจากนายจ้าง นอกจากนี้หากคุณอายุ 18-64 ปี คุณจะต้องผ่านการทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักรที่เรียกว่า Life in the UK และมีทักษะภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
การสอบ Life in the UK คืออะไร ที่มาของภาพ, EKARIN BUMROONGPUK/BBC THAI
คำบรรยายภาพ, หนังสือคู่มือหนา 180 หน้า สำหรับเตรียมสอบ Life in the UK
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 มีพระชายากี่พระองค์, สิทธิที่จะได้รับจากการเป็นพลเมืองอังกฤษมีอะไรบ้าง, สงครามดอกกุหลาบเริ่มขึ้นในปีไหน, พระเจ้าวิลเลียม ผู้พิชิต มาจากประเทศไหนในสมัยปัจจุบัน ฯลฯ
นี่คือตัวอย่างของคำถามที่คุณอาจจะเจอในข้อสอบ Life in the UK ซึ่งเป็นการวัดว่าคุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และความรู้รอบตัวในสหราชอาณาจักรดีแค่ไหน
คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันตัวอย่างข้อสอบ เพื่อฝึกทำข้อสอบ และอาจจะซื้อหนังสือคู่มือที่ใช้ในการออกข้อสอบนี้มาอ่านประกอบก็จะมีส่วนช่วยให้การเตรียมตัวดีขึ้น โดยในหนังสือที่มีความหนาราว 180 หน้านี้ มีเนื้อหาที่หลากหลายครอบคลุมทั้งกระบวนการเป็นพลเมืองอังกฤษ หรือผู้พำนักอาศัยถาวร, คุณค่าและหลักการของสหราชอาณาจักร, ประเพณีและวัฒนธรรมจากที่ต่าง ๆ ทั่วสหราชอาณาจักร, เหตุการณ์และบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์, รัฐบาลและกฎหมายต่าง ๆ เป็นต้น
ข้อสอบเป็นแบบตัวเลือกมีทั้งหมด 24 ข้อ มีเวลาทำ 45 นาที ผลสอบรู้ทันทีหลังสอบเสร็จ โดยต้องตอบถูก 18 ข้อ หรือคิดเป็น 75% จึงจะผ่าน หากไม่ผ่านสามารถสมัครสอบใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องเว้นช่วงนาน 7 วัน และเสียค่าสมัครสอบครั้งละ 50 ปอนด์ (ประมาณ 2,200 บาท)
เมื่อคุณได้สถานะ ILR มาแล้วนาน 12 เดือน จึงจะสามารถยื่นสมัครขอสัญชาติอังกฤษ ได้ โดยมีการกำหนดเงื่อนไขเฉพาะไว้ ซึ่งเงื่อนไขบางข้อก็กำหนดไว้แล้วในการสมัครขอ ILR แล้ว ดังนี้
พิสูจน์ได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ในสหราชอาณาจักรมาแล้ว 5 ปี ก่อนยื่นสมัคร (เมื่อนับรวมกับเงื่อนไขในการขอ ILR เท่ากับว่า คุณจะต้องใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในสหราชอาณาจักรมาแล้วอย่างน้อย 6 ปี) แต่ในช่วงเวลา 5 ปีก่อนการสมัครขอสัญชาตินั้น มีการกำหนดรายละเอียดไว้ด้วยว่า ต้องไม่อยู่นอกสหราชอาณาจักรมากกว่า 450 วัน และในช่วง 12 เดือนก่อนการสมัครต้องอยู่นอกสหราชอาณาจักรไม่เกิน 90 วัน และไม่เคยละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของสหราชอาณาจักร มีความรู้ภาษาอังกฤษ ภาษาเวลช์ หรือภาษาเกลิกสกอต ผ่านการทดสอบ Life in the UK มีความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปในสหราชอาณาจักร มีศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงการไม่เคยต้องโทษอาญามาก่อน ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ระบุมาข้างต้นเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้วีซ่าประเภทแรงงานมีทักษะเข้ามาทำงานในสหราชอาณาจักรแล้วครบตามระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ซึ่งการได้วีซ่าทำงานเปรียบเสมือนใบเบิกทางที่สำคัญและอาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้มา
คำบรรยายภาพ, การขอสัญชาติอังกฤษนั้นต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1,330 ปอนด์ (ประมาณ 59,000 บาท)
ในกรณีที่คุณอยู่อาศัยในสหราชอาณาจักรโดยไม่มีวีซ่าแรงงานมีทักษะ หรือถือวีซ่าผู้ติดตามของแรงงานมีทักษะ คุณต้องอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรอย่างถูกกฎหมายนานติดต่อกัน 10 ปี คุณจึงจะสามารถสมัครขอ ILR ได้
ปัจจุบัน การขอสัญชาติอังกฤษนั้นต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1,330 ปอนด์ (ประมาณ 59,000 บาท) และชำระค่าเก็บข้อมูลชีวมิติ 19.20 ปอนด์ (ประมาณ 860 บาท) เมื่อได้รับสัญชาติแล้วก็จะต้องเข้าพิธีปฏิญาณตนสวามิภักดิ์ต่อพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และภักดีต่อสหราชอาณาจักร
กระบวนการขอสัญชาติในประเทศอื่น ๆ โดยทั่วไปก็ไม่ต่างจากของสหราชอาณาจักรมากนัก แต่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกัน
สหรัฐอเมริกา ในสหรัฐฯ เรียกใบอนุญาตให้พำนักอาศัยถาวรว่า "กรีนการ์ด" (Green Card) ทางการสหรัฐฯ กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะสมัครขอสัญชาติอเมริกันต้องถือกรีนการ์ดมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี โดยในช่วงที่สมัครขอสัญชาติ กรีนการ์ดต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน ไม่เช่นนั้นต้องต่ออายุกรีนการ์ดก่อนสมัคร
ส่วนเงื่อนไขประกอบอื่น ๆ ได้แก่ ผู้สมัครต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีศีลธรรมอันดี ยึดมั่นในหลักการของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ต้องกรอกแบบฟอร์ม N-400 เพื่อสมัครขอสัญชาติ โดยจะต้องผ่านการทดสอบความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เรียกว่า Civic Test ซึ่งเป็นการสอบปากเปล่า เจ้าหน้าที่จะเลือกคำถาม 20 ข้อจากทั้งหมด 128 ข้อ มาถามผู้สมัคร ต้องตอบถูก 12 ข้อ จึงจะผ่านการทดสอบ นอกจากนี้ยังต้องมีการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษ และต้องสอบสัมภาษณ์ด้วย
คำบรรยายภาพ, สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่มากที่สุดในต่างประเทศ
ผู้ที่สมัครขอสัญชาติอเมริกันต้องเข้าพิธีปฏิญาณตนภักดีต่อสหรัฐอเมริกาด้วย
ในการขอกรีนการ์ดกรณีเป็นชาวต่างชาติที่ไปทำงานในสหรัฐฯ สามารถเดินเรื่องขอได้เลยตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ ต่างจากกรณีของสหราชอาณาจักรที่ต้องอยู่อาศัยโดยวีซ่าทำงานทั่วไปก่อน เมื่อครบกำหนดตามเงื่อนไขจึงสมัครของอนุญาตอาศัยอยู่อย่างถาวรได้ กรีนการ์ดของสหรัฐฯ โดยทั่วไป มีอายุ 10 ปี และสามารถต่ออายุได้
แคนาดา อีก 1 ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ได้ชื่อว่าเปิดกว้างมากที่สุดประเทศหนึ่ง เปิดรับผู้อพยพจากหลายชาติสม่ำเสมอ แต่ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ไม่ถึง 10,000 คน (ข้อมูลปี 2563 ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ) ทางการกำหนดเงื่อนไขการจะขอสัญชาติแคนาดาไว้ว่า ผู้สมัครต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องเป็นผู้พักอาศัยถาวรของแคนาดา ต้องอยู่ในแคนาดาอย่างน้อย 1,095 วันในช่วง 5 ปีก่อนการสมัคร ต้องยื่นภาษีเงินได้อย่างน้อย 3 ปีในช่วงเวลา 5 ปี ต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศสเพียงพอ (ถ้าผู้สมัครมีอายุระหว่าง 18-54 ปี)
นอกจากนี้ในระหว่างที่มีสถานะผู้อยู่อาศัยถาวร จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ครบถ้วน ไม่อยู่ระหว่างได้รับคำสั่งให้ออกนอกประเทศ และไม่ถูกห้ามใด ๆ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความมั่นคงและอาญา
คำบรรยายภาพ, ผู้ต้องการสมัครขอสัญชาติแคนาดา ต้องเป็นผู้พักอาศัยถาวรของแคนาดา และอยู่ในแคนาดาอย่างน้อย 1,095 วันในช่วง 5 ปีก่อนการสมัคร
โดยหลังจากสมัครแล้ว จะมีการประเมินว่า คุณมีความรู้เกี่ยวกับแคนาดา ความรับผิดชอบและสิทธิต่าง ๆ ในฐานะพลเมืองแคนาดาหรือไม่ โดยการเข้ารับการทดสอบ ตอบคำถามแบบปรนัย 20 ข้อ ภายในเวลา 30 นาที ต้องตอบถูก 15 ข้อ จึงจะผ่านการทดสอบ จากนั้นจึงเข้าสอบสัมภาษณ์ต่อ
ออสเตรเลีย ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่มากกว่า 100,000 คน ผู้ที่ต้องการขอสัญชาติออสเตรเลีย ต้องอาศัยอยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่าที่ถูกต้องเป็นเวลา 4 ปี และต้องเป็นผู้อาศัยอยู่ถาวรในออสเตรเลียนาน 12 เดือน โดยในช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ออกนอกประเทศออสเตรเลียไม่เกิน 12 เดือน และในช่วง 12 เดือนล่าสุด ต้องออกนอกประเทศรวมไม่เกิน 90 วัน
ผู้สมัครต้องมีศีลธรรมอันดี ซึ่งจะมีการประเมินจากหลายอย่าง รวมถึงความยึดมั่นและเชื่อฟังกฎหมายออสเตรเลีย มีคุณสมบัติตามคำมั่นสัญญาในการปฏิญาณตนเป็นพลเมืองออสเตรเลีย ไม่มีประวัติความผิดอาญา การเกี่ยวข้องกับคนที่มีความน่ากังวล หรือเคยถูกรายงานแจ้งเหตุรุนแรงภายในครอบครัว
คำบรรยายภาพ, ผู้ที่ต้องการขอสัญชาติออสเตรเลีย ต้องอาศัยอยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่าที่ถูกต้องเป็นเวลา 4 ปี
ในการทดสอบการเป็นพลเมืองออสเตรเลีย ผู้สมัครต้องแสดงให้เห็นว่ามีความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ มีความเข้าใจถึงการเป็นพลเมืองออสเตรเลีย มีความรู้เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย ความรับผิดชอบและสิทธิของพลเมือง เข้าใจถึงการยึดมั่นในค่านิยมออสเตรเลียที่อยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพ การเคารพ และความเท่าเทียม
ผู้สมัครต้องทำคะแนนได้ 75% ขึ้นไป และต้องตอบคำถาม 5 ข้อเกี่ยวกับค่านิยมออสเตรเลียได้อย่างถูกต้อง จึงจะผ่านการทดสอบ
ผู้สมัครต้องตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย หรือรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับออสเตรเลียขณะที่อยู่ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาจากหลายด้านรวมถึง การมีลูกที่ถือสัญชาติออสเตรเลีย มีคนรักเป็นคนสัญชาติออสเตรเลียและระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีครอบครัวขยายในออสเตรเลีย ระยะเวลาที่อยู่ในออสเตรเลีย บัญชีธนาคารในออสเตรเลีย มีงานทำ จ่ายภาษีเงินได้ และมีบ้านในออสเตรเลีย
ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นให้ความเคร่งครัดกับการคือสัญชาติ กำหนดให้พลเมืองถือเพียงสัญชาติเดียวเท่านั้น เว้นแต่ได้รับการยกเว้น ต่างจากในประเทศพัฒนาแล้วหลายแห่งที่อนุญาตให้พลเมืองถือหลายสัญชาติได้
คำบรรยายภาพ, พาสปอร์ตญี่ปุ่นถูกจัดอันดับว่า 'ทรงพลังที่สุด' ในโลก ในปี 2018
กฎหมายว่าด้วยสัญชาติของญี่ปุ่น มาตรา 5 บัญญัติไว้ว่า กระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นไม่ควรอนุมัติให้สัญชาติแก่คนต่างด้าว เว้นแต่เขาหรือเธอปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้ทุกข้อ
อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลาอย่างต่ำ 5 ปี ติดต่อกัน มีอายุอย่างต่ำ 20 ปี และบรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมายของประเทศบ้านเกิดตัวเอง ยึดมั่นในความประพฤติดี สามารถดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองได้ ไม่มีสัญชาติ หรือเมื่อได้สัญชาติญี่ปุ่นแล้ว จะส่งผลให้ต้องเสียสัญชาติต่างชาติไป ไม่เคยวางแผนหรือส่งเสริม หรือเป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมืองหรือองค์กรอื่นใด ที่วางแผนหรือส่งเสริมโค่นล้มรัฐธรรมนูญหรือรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น นับตั้งแต่มีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น แต่กฎหมายญี่ปุ่นบัญญัติไว้ด้วยว่า หากคนต่างด้าวไม่สามารถสละสัญชาติปัจจุบันของตัวเองได้ ไม่ว่าจะด้วยความจงใจหรือไม่ กระทรวงยุติธรรมอาจพิจารณาให้สัญชาติญี่ปุ่นได้ แม้ว่าคนต่างด้าวนั้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อที่ 5 ข้างต้น หากทางกระทรวงพบว่า มีสภาพแวดล้อมที่เป็นข้อยกเว้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวกับคนสัญชาติญี่ปุ่น หรือสภาพแวดล้อมอื่น ๆ
คำบรรยายวิดีโอ, พาสปอร์ตอียูผิดกฎหมาย หามาได้ง่ายแค่ไหน?
เยอรมนี เว็บไซต์กระทรวงมหาดไทยและสังคมของเยอรมนี ระบุว่า บุคคลที่มีสิทธิ์ในการขอสัญชาติเยอรมัน ต้องอาศัยอยู่ในเยอรมนีอย่างถูกกฎหมายอย่างน้อย 8 ปี และถือใบอนุญาตการพำนักอาศัยอย่างถูกต้อง สำหรับชาวต่างชาติที่ผ่านหลักสูตรบูรณาการแล้วสามารถขอสัญชาติได้หลังจากอาศัยอยู่ในเยอรมนีนาน 7 ปี บุคคลที่ต้องการเป็นพลเมืองเยอรมนีต้องปฏิญาณตนภักดีต่อรัฐธรรมนูญของเยอรมนี
ผู้สมัครของสัญชาติต้องคุ้นเคยกับระบบกฎหมาย สังคม และสภาพความเป็นอยู่ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยต้องผ่านการทดสอบการขอสัญชาติ ซึ่งผู้สอบต้องตอบคำถามแบบมีตัวเลือก 33 ข้อ ในจำนวนนี้ 3 ข้อจะเป็นคำถามเกี่ยวกับรัฐที่ผู้สมัครอาศัยอยู่ โดยต้องตอบถูก 17 ข้อจึงจะผ่าน
ผู้สมัครต้องสามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากสังคม นอกจากจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม และต้องไม่เคยกระทำความผิดอาญารุนแรง นอกจากนี้ต้องสละสัญชาติก่อนหน้านี้ด้วย แต่ในบางกรณี หรือในกลุ่มคนบางกลุ่ม อาจจะพิจารณาให้ถือหลายสัญชาติได้
ทางกระทรวงมหาดไทยเยอรมนีระบุว่า การรู้ภาษาเยอรมันเป็นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีในลำดับแรก ๆ เพื่อที่จะได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเยอรมนีได้ โดยผู้สมัครต้องพูดและเขียนภาษาเยอรมันได้ในระดับเทียบเท่ากับ B1 ตามกรอบการอ้างอิงด้านภาษาของยุโรป
คำบรรยายภาพ, กรุงเบอร์ลิน ยามค่ำคืน
ค่าธรรมเนียมในการขอสัญชาติเยอรมนีโดยปกติจะอยู่ที่ 255 ยูโร (ประมาณ 9,600 บาท) แต่อาจจะมีการลดหย่อนหรือยกเว้นให้ทั้งหมดในบางกรณี
ประเทศไหนขอสัญชาติยากที่สุด การขอสัญชาติเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและใช้เวลานานอยู่แล้ว แต่ในบางประเทศกระบวนการนี้มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นไปอีก เว็บไซต์ที่เชี่ยวชาญด้านตรวจคนเข้าเมือง ในเมืองเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ ระบุว่า ประเทศที่ขอสัญชาติยากที่สุดในโลกมีหลายแห่งรวมถึง สำนักวาติกัน, ลิกเตนสไตน์, ภูฏาน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต, สวิตเซอร์แลนด์, จีน และเกาหลีเหนือ เว็บไซต์นี้ระบุว่า
การขอสัญชาติเกาหลีเหนือ บุคคลที่มีคุณสมบัติจะต้องยื่นคำร้องไปยังสภาประชาชนสูงสุด เพื่อให้ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือตัดสินใจ สำนักวาติกัน มีประชากรอยู่ราว 800 คน ในจำนวนนี้ถือสัญชาติวาติกันอยู่กว่า 450 คนเท่านั้น การให้สัญชาติวาติกันไม่ได้พิจารณาจากการเกิดหรือการสมรส แต่พิจารณาจากบทบาทของบุคคลที่ทำงานที่นั่น การขอสัญชาติลิกเตนสไตน์ คุณต้องอาศัยอยู่ในประเทศอย่างน้อย 30 ปี แต่จำนวนปีที่คุณอยู่ในประเทศนั้นขณะอายุต่ำกว่า 20 ปี ให้นับแต่ละปีเป็น 2 ปี กาตาร์ ผู้มีคุณสมบัติจะอาศัยอยู่อย่างถาวรในกาตาร์ด้วยการขอสัญชาตินั้น จะต้องอาศัยอยู่ในกาตาร์มาแล้วอย่างน้อย 20 ปีติดต่อกันถ้าเกิดนอกกาตาร์ หรือ 10 ปี ถ้าเกิดในกาตาร์ นอกจากนี้ผู้สมัครต้องใช้ภาษาอารบิกอย่างคล่องแคล่ว มีศีลธรรมอันดี สามารถช่วยเหลือตัวเองด้านการเงินได้ในช่วงที่อาศัยอยู่ในกาตาร์ โดยรัฐบาลกาตาร์กำหนดจำนวนการอนุญาตให้คนเข้ามาอาศัยอยู่ถาวรไว้ที่สูงสุด 100 คนต่อปีเท่านั้น
10 ประเทศที่คนไทยอาศัยอยู่มากที่สุด จากข้อมูลของกรมการกงสุล ซึ่งรวบรวมระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. 2563 ระบุว่า มีคนไทยอาศัยอยู่ในต่างประเทศรวม 1,276,546 คน โดยบีบีซีไทย ได้รวบรวมตัวเลขที่ทางกรมการกงสุลเผยแพร่พบว่า 10 ประเทศแรกที่คนไทยอาศัยอยู่มากที่สุดคือ
สหรัฐฯ 488,000 คน จีน (รวมฮ่องกงและไต้หวัน) 109,333 คน ออสเตรเลีย 100,856 คน ญี่ปุ่น 86,666 คน สวีเดน 74,101 คน เยอรมนี 59,130 คน สหราชอาณาจักร 41,341 คน เกาหลีใต้ 32,861 คน นอร์เวย์ 31,387 คน อิสราเอล 26,641 คน
ที่มา :: https://www.bbc.com/thai/international-60162480